วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558

สรุปย่อปรััชญาการศึกษาไทย

สรุปย่อปรัชญาการศึกษา

   ปรัชญาสารัตถนิยม 
ปรัชญานี้ เน้นความนิรันดรของความรู้ เชื่อว่าจิตไม่ได้หมายถึงสภาพอารมณ์ แต่เป็นสติปัญญาและความคิด อาจกล่าวได้ว่า เป็นการเรียนรู้ความคิดและหลักการของสิ่งต่าง ๆ มากกว่า และหลักการยอมเป็นสิ่งถูกต้องเสมอไม่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นจริงตลอดไป หลักการย่อมถูกต้องเสมอไม่มีการเปลี่ยนแปลง สร้างวินัยในตนเอง ครูเป็นผู้ให้ นักเรียนเป็นผู้รับ หลักสูตรเน้นเนื้อหาวิชา และหลักสูตรสหสัมพันธ์ วิธีสอนให้นักเรียนมุ่งรับรู้และจดจำ ใช้การปาฐกถา

    ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม 
ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม มีอิทธิพลต่อการจัดการศึกษาเป็นอย่างมากและได้รับความนิยมจากประเทศต่าง ๆ เพราะถือว่าการศึกษาที่แท้จริงจะต้องเรียนรู้จากประสบการณ์ เน้นประสบการณ์ พัฒนาผู้เรียน ด้านร่างกายอารมณ์ และสังคม ครูเป็นผู้จัดประการณ์หรือกิจกรรมที่เน้นการมีส่วนร่วม อยู่บนพื้นฐานและความสนใจของผู้เรียน ใช้วิธีสอนแบบการแก้ปัญหาตามหลักวิทยาศาสตร์ ครูเป็นผู้ช่วยชี้แนะ จัดกิจกรรมนอกสถานที่กระตุ้นให้ผู้เรียนรับประสบการณ์ตรง

   ปรัชญานิรันตรนิยม 
ปรัชญานี้ ใช้ในการจัดการเรียนรู้ เป้าหมายการศึกษา มุ่งไปที่คุณ งามความดีอันสูงสุด ที่ไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดการพัฒนาปัญญาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ของมนุษย์ โรงเรียนทำให้เด็กรู้จักคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมเท่าที่จะเป็นไปได้ ปรัชญานิรันตรนิยม เน้นเรื่องคุณงามความดีอันสูงสุด ที่ไม่เปลี่ยนแปลง โรงเรียนส่งเสริมผู้เรียนให้รู้จักคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรม เน้นระเบียบวินัย ผู้สอนเป็นศูนย์กลาง ใช้วิธีการบรรยายในการรับรู้ จดจำ ใช้การออกกำลังกลายในการสร้างวินัยผู้เรียน

   ปรัชญาปฏิรูปนิยม 
จะเน้นการเรียนรู้ที่มีค่าต่อเมื่อได้ลงมือปฏิบัติจริงในชีวิตจริงของผู้เรียน หากสังคมปราศจากศีลธรรม และจุดหมายปลายทางก่อให้เกิดวิกฤตทางสังคมซึ่งการศึกษาจะต้องเป็นหลักของการพัฒนาคือ สร้างความเสมอภาคและความเป็นธรรม อีกทั้งต้องเตรียมคนสู่สังคมใหม่ โรงเรียนจะต้องจัดกิจกรรมอย่างอิสระยืดหยุ่น ผู้เรียนได้รับประสบการณ์และทักษะ ตามวิถีทางประชาธิปไตยการพัฒนาผู้เรียนให้ตระหนักในบทบาทหน้าที่ของตนที่มีต่อสังคมและการปฏิรูปให้สังคมดีขึ้น

   ปรัชญาอัตถิภาวนิยม
เชื่อว่า มนุษย์เกิดมาเพื่อเสรีภาพพร้อมที่จะเลือกและรับผิดชอบสิ่งที่ตนเลือก การจัดการเรียนการสอน มุ่งที่จะพัฒนาผู้เรียนดึงเอา ศักยภาพที่มีอยู่ภายในตัวเองออกมา แสดงออกอย่างอิสระ ครูเป็นเพียงที่ปรึกษานักเรียนเป็นผู้ลงมือปฏิบัติเอง มุ่งเน้นพัฒนาให้มีอิสรภาพและมีความรับผิดชอบ คนแต่ละคนสามารถกำหนดชีวิตของตนเองได้ เพราะมีอิสระในการเลือกทุกสิ่งทุกอย่างไม่อยู่คงที่แต่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

   ปรัชญาพุทธปรัชญา
เป็นปรัชญาที่ได้แนวคิดมาจากพระพุทธศาสนา และปรัชญาการศึกษาอื่นๆ การศึกษาในพุทธปรัชญา คือ การศึกษาเพื่อให้เข้าใจความจริง เข้าใจความหมายของชีวิต ทั้งดำรงชีวิตให้สอดคล้องสัมพันธ์กับความจริงโดยใช้เหตุและ


การพัฒนาการศึกษาของไทย

   ในสมัยก่อนการศึกษาไทยจะมีสถานที่อยู่ตามบ้าน ตามวัด และวัง  
   การศึกษาในบ้านส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงซึ่งการศึกษาจะเน้นการฝึกฝนวิชาชีพการบ้าน     การเรือนต่างๆ  
   การศึกษาในวัดจะเป็นสถานที่ศึกษาสำหรับผู้ชายซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นหนักไปทางจริยธรรม ภาษาบาลีเพื่อใช้บวชเรียนทางพระพุทธศาสนาต่อไป  
   การศึกษาในวังจะมีการศึกษาที่สูงกว่าที่บ้านละที่วัดแต่จะมีในวงจำกัดแค่พระราชวงศ์และข้าราชการในพระสำนักพระราชวังเท่านั้นมีการสอนภาษาอังกฤษ มีการจัดตั้งโรงเรียนหลวงเพื่อขยายการศึกษาไปสู่ประชาชนส่วนใหญ่ คือ โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ 
การศึกษาไทยในปัจจุบันเป็นการศึกษาที่เปิดกว้างโดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาพัฒนารูปแบบการศึกษา เพื่อให้ก้าวทันโลกยุคใหม่ในปัจจุบัน

ปฏิรูปการศึกษาไทย
คุณภาพการศึกษาไทยที่พบในโลกจริง
         เด็กไทยอ่านออกเขียนได้ในระดับที่จำกัด
         เด็กไทยจำนวนมากไม่มีโอกาสได้เรียนต่อในระดับสูง
         ท่องจำแต่ไม่เข้าใจ
         บัณฑิตไม่สามารถทำงานได้ ทำงานไม่เป็น เป็นต้น

อะไรทำให้การศึกษาไทยล้มเหลว
    ขาดความรับผิดชอบ
    หลักสูตร เน้นท่องจำมากกว่าสอนให้คิดเป็น
    รัฐไม่ใส่ใจจัดสรรงบประมาณให้น้อย
    เด็กไทยเรียนน้อยเกินไป ไม่ขยัน

หลักสูตรแห่งศตวรรษที่ 21  
      คิดเป็น ทำเป็น และเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต

ลักษณะของหลักสูตรที่ดี 
      กระชับ บูรณาการ หลักสูตรช่างคิด

การทดสอบที่ดี  
      ทำให้คิดเป็น ประยุกต์ใช้ในปัจจุบันและอนาคตได้

เป้าหมายของการศึกษาที่ดี คือ การมุ่งเน้นพัฒนาความฉลาดและความสามารถของผู้เรียนอย่างน้อยด้าน คือ ความฉลาดทางปัญญา ( IQ ) ความฉลาดทางอารมณ์ ( EQ ) และ ความฉลาดทางสังคม (SQ )ซึ่งทั้งสามด้านนี้ คือสำนึกในสังคมที่มีความร่วมมือ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน่วนตน

สถานการณ์การศึกษาไทย 2557
     การวิจัยของ PISA ในการเปรียบเทียบความสามารถทางด้านการคิด การอ่านและคำนวณ ของนักเรียนอายุ 15 ปีทั่วโลก พบว่านักเรียนไทยมีการศึกษาด้อยกว่าสิงคโปร์และเวียดนาม และในวิจัย The World Economic Forum พบว่าการศึกษาไทยด้อยที่สุดในสมาชิกอาเซียน การศึกษาของไทยด้อยและแย่ที่สุด เด็กไทยเพียงแค่ 1 ใน 3 คนที่จะมีโอกาสเข้าโรงเรียนที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น